นโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
บริษัท สปี๊ดดี้ เทค จำกัด และบริษัทในเครือ (“บริษัท” หรือ “เรา”) เข้าใจและตระหนักว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและสิทธิพื้นฐานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่านเป็นเรื่องสำคัญ

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะอธิบายถึงการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล วัตถุประสงค์ในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ตลอดจนมาตรการรักษาความปลอดภัย รวมถึงสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เราขอยืนยันว่าจะดำเนินการตามนโยบายฉบับนี้รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ท่านได้มั่นใจว่า ข้อมูลของท่านที่เราได้รับจะถูกนำไปใช้ตรงตามวัตถุประสงค์และถูกต้องตามกฎหมาย

1. คำนิยาม
   “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
2. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
   เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อท่านดำเนินธุรกรรมกับบริษัทหรือเกี่ยวกับเว็บไซต์ หรือการติดต่อกับบริษัทผ่านเว็บไซต์ อีเมล โทรศัพท์ หรือเข้าติดต่อด้วยตนเอง เพื่อสอบถามเกี่ยวกับสินค้าและบริการ หรือในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยหรือคำขอใดๆ รวมถึงเพื่อแก้ไขปัญหาใด ๆ หรือเมื่อท่านสมัครใช้บริการต่าง ๆ ที่บริษัทเสนอให้บนเว็บไซต์ หรือเพื่อแจ้งเตือนทางอีเมลและ/หรือจดหมายข่าวของบริษัท รวมถึงการเข้าถึงบริการหรือติดต่อบริษัททผ่านทางช่องทางติดต่อต่างๆ รวมถึง Social Network เช่น Facebook Line Official เป็นต้น และเมื่อท่านสมัครงานผ่านช่องทางติดต่อของบริษัท หรือผ่านบุคคลที่ให้การแนะนำของท่าน โดยประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่เราอาจเก็บรวบรวม ได้แก่


   
   ข้อมูลส่วนบุคคล: ชื่อ-นามสกุล, เลขประจำตัวประชาชน, หมายเลขหนังสือเดินทาง, เป็นต้น

   ข้อมูลติดต่อ: ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล, บัญชี social media เช่น Google Account, Line ID, Facebook ID เป็นต้น

   ข้อมูลทางการเงิน: เลขที่ประจำตัวผู้เสียภาษี, ข้อมูลบัญชีธนาคาร, เลขที่บัตรเครดิต, บัญชีการเงินออนไลน์ เป็นต้น

   ข้อมูลทางเทคนิค: ประวัติการใช้บริการผลิตภัณฑ์และบริการของเรา

   ข้อมูลอื่น ๆ: การใช้งานเว็บไซต์, แอปพลิเคชัน และข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
3. วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
   การจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทำโดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขต และประมวลผล โดยชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม เพียงเท่าที่จำเป็นแก่การให้บริการ หรือบริการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ภายใต้วัตถุประสงค์ของเราเท่านั้น เราอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
   
   วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูล ฐานการประมวลผลข้อมูล

   เพื่อการยืนยันตัวตนในการลงทะเบียนเป็นลูกค้าหรือคู่ค้ากับบริษัท การปฏิบัติตามสัญญาหรือการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา

   เพื่อสั่งซื้อผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท รวมทั้งใช้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่เรากำหนดตามการปฏิบัติตามกระบวนการภายในของเราหรือติดต่อระหว่างท่านกับเราในการรับหรือส่งเอกสาร ติดตามทวงถาม การปฏิบัติตามสัญญา

   เพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพันทางกฎหมายและข้อเรียกร้องการบังคับใช้กฎหมายรวมถึงรายงานข้อมูลต่อหน่วยงานราชการตามกฎหมาย เช่น กรมสรรพากร การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานราชการ หรือศาล การปฏิบัติตามกฎหมาย

   เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย
ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย

   เพื่อดำเนินการวางแผน การรายงาน และการคาดการณ์ทางธุรกิจ ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

   เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณสำนักงาน สาขา หรือสถานที่ของเรา และการบันทึกภาพผู้ที่มาติดต่อด้วยตนเองด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV) ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
เพื่อแจ้งข่าวสารสิทธิประโยชน์และรายการส่งเสริมการขายต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ รวมถึงการแจ้งเตือนต่าง ๆ โดยไม่มีวัตถุประสงค์ทางการตลาด ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

   เพื่อการเปิดเผยให้แก่พันธมิตรหรือผู้ให้บริการของเราซึ่งเกี่ยวเนื่องกับสินค้าหรือบริการที่ท่านได้เลือกซื้อหรือใช้บริการกับเรา ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

   เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา การปฏิบัติตามสัญญาหรือการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา
วัตถุประสงค์ในการที่เราอาจหรือจะทำการรวบรวม นำไปใช้ เปิดเผย หรือดำเนินการ กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่าง ๆ โดยวัตถุประสงค์ดังกล่าว อาจไม่ถูกระบุอยู่ในข้อกำหนดข้างต้น อย่างไรก็ตาม เราจะแจ้งให้ท่านทราบ ถึงวัตถุประสงค์นั้น ๆ เมื่อเรา ได้รับความยินยอมจากท่าน สำหรับการดำเนินการดังกล่าว เว้นแต่กรณีที่กฎหมายอนุญาต ให้เราดำเนินการ กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่านก่อน
   
   ทั้งนี้ในกรณีที่ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อลงทะเบียนเป็นคู่ค้าหรือลูกค้าของบริษัท หรือมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์ของเรา หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หากท่านไม่ให้ข้อมูลหรือให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน อาจส่งผลกระทบต่อการใช้บริการหรือผลิตภัณฑ์ของเรา หรือการดำเนินการใดๆ ซึ่งทำให้ไม่สามารถใช้บริการหรือได้รับบริการต่างๆ จากบริษัทได้
4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
   เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งต่าง ๆ ได้แก่
   4.1 เราได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง
แพลตฟอร์มออนไลน์: เราอาจรวบรวมข้อมูลเมื่อท่านลงทะเบียนเป็นลูกค้าหรือคู่ค้ากับเรา หรือทำธุรกรรมกับเราผ่านทางแบบฟอร์มออนไลน์ เช่น การซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการ หรือการสอบถามข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
การโต้ตอบสื่อสารออฟไลน์: เราอาจรวบรวมข้อมูลเมื่อมีการติดต่อกันผ่านทางโทรศัพท์หรือการเข้าร่วมกิจกรรมของเรา
การจัดเก็บข้อมูลโดยอัตโนมัติ: เช่น เมื่อท่านเข้าใช้งานเว็บไซต์ของเรา

   4.2 เราได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่น
ลูกค้าของบริษัท: รวมถึงตัวแทนขายสินค้าหรือบริการของเรา
พันธมิตรทางธุรกิจของเรา
หน่วยงานราชการ หรือแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ เช่น ข้อมูลที่ค้นหาได้ทางอินเตอร์เน็ต หรือบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
   เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่าน หรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าวจะเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้
   
   เราอาจจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่าน หรือฐานทางกฎหมายอื่นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ อาทิเช่น
   
   พันธมิตรทางธุรกิจ: ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับสินค้าหรือบริการของบริษัทที่ท่านได้เลือกซื้อหรือใช้บริการ
หน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น ศาล ตำรวจ กรมสรรพากร เป็นต้น
ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง และ/หรือผู้ให้บริการสำหรับการดำเนินงานใด ๆ เช่น

   ผู้ให้บริการทำกิจกรรมทางการตลาด

   รับจ้างทำวิจัย

   รับจ้างพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ

   ธนาคาร หรือตัวกลางผู้ให้บริการโอนรับเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ

   ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมาย หรือที่ปรึกษาใด ๆ

   ผู้ให้บริการคลาวด์ โดยใช้บริการจากบุคคลที่สามไม่ว่าตั้งอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ

   ผู้ดูแลระบบสารสนเทศ
ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันและระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง

   เจ้าหน้าที่บริการผู้ใช้งานเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของเราในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

   พันธมิตรทางธุรกิจอื่น ๆ ของเรา หรือบุคคลภายนอกตามความยินยอมจากท่าน หรือตามข้อกำหนดของสัญญา หรือตามข้อกำหนดของกฎหมาย แล้วแต่กรณ
6. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
   หลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก
   
   ระยะเวลาที่เราดำเนินความสัมพันธ์กับท่านและให้บริการแก่ท่าน โดยปกติระยะเวลาการเก็บข้อมูลสูงสุดจะเท่ากับ 5 ปีหลังจากท่านสิ้นสุดการเป็นคู่ค้า ลูกค้า หรือพนักงานของเรา
หรือตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย

   เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของเรา
7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
   ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการดำเนินการตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ ดังต่อไปนี้
   
   สิทธิในการขอถอนความยินยอม: ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมที่จะให้เราประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตลอดเวลา

   สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้เราทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน

   สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิให้เราแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และสมบูรณ์

   สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการขอให้เราทำการลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

   สิทธิในการคัดค้านการประมวลผล: ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

   สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล: ท่านมีสิทธิในการขอโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่น

   สิทธิในการระงับการประมวลผล: ท่านมีสิทธิในการขอให้เราระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

   สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่เราฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย

8. การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

   เราได้จัดให้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย
   ใช้ แปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรฐานในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
9. ช่องทางการติดต่อ
   หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการติดต่อเพื่อขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหากมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อได้ผ่านช่องทางต่อไปนี้
   
   ติดต่อเรา: [เพิ่มข้อมูลการติดต่อที่นี่]

   ผ่านอีเมล: [เพิ่มที่อยู่อีเมลที่นี่]
   
10. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    เราขอสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนได้ในอนาคต ทั้งนี้ตามความสมเหมาะและภายใต้กฎหมาย
    
    ให้ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิกถอน